Search

วิกฤติการระบาดของโควิด ทำไมถึงรู้สึกว่าการทำงานของ...

  • Share this:

วิกฤติการระบาดของโควิด ทำไมถึงรู้สึกว่าการทำงานของผู้ที่รับผิดชอบต้องขับเคลื่อนด้วยเสียงด่าของประชาชน?

ปัญหาในการรับมือกับโควิดมีกรณีศึกษาทั่วโลกที่เราสามารถเรียนรู้ก่อนได้แต่ทำไมดูเหมือนผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ได้เรียนรู้เลย

โควิดระลอกสามเริ่มระบาดก่อนสงกรานต์ จนถึงตอนนี้เวลาผ่านไป 4 เดือนกว่า สถานการณ์ไม่ได้มีทีท่าจะดีขึ้นเลย และวันนี้ยอดผู้ติดเชื้อที่นับได้ก็ทะลุ 20000 ไปแล้ว (นี่ไม่นับคนไข้ที่ยังไม่ได้ยืนยันอีกมากมาย)

เราประกาศจะเปิดประเทศภายใน 120 วัน แต่การทำงานเพื่อรับมือการระบาดของโควิดไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนเลยว่าการประกาศจะเป็นไปได้

ทำไมต้องมีภาพคนไข้นอนตายอยู่ที่บ้านหรือกลางถนน?

ทำไมต้องมีภาพคนต่อแถวยาวเหยียดข้ามคืนเพื่อรอตรวจหาเชื้อโควิด?

ทำไมคนไข้ต้องลำบากวิ่งหาที่ตรวจหาเชื้อเพราะว่าไม่มีที่ไหนรับ?

ทำไมการโทรหาหรือลงทะเบียนเพื่อเข้าระบบการรักษาถึงลำบากยากเย็นเหลือเกิน?

ทำไมต้องปล่อยให้ประชาชนไปยืนเข้าแถวเบียดเสียดเพื่อรับวัคซีน แทนที่จะกระจายให้เข้าถึงจุดฉีดได้ง่ายกว่านี้?

ทำไมระบบลงทะเบียนฉีดวัคซีนถึงไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้ประชาชนถูกเทวัคซีนจนเป็นเรื่องปกติ?

ทำไมประชาชนต้องจ่ายเงินแย่งหาวัคซีนกันเองเพราะรัฐหาให้ไม่เพียงพอ?

ทำไมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทำ home isolation แต่ยาและอาหารไม่เคยไปถึงจนคนไข้ไม่น้อยอาการหนักและตายไป?

ทำไมแต่ละโรงพยาบาลต้องประกาศปิด ER และขอปฎิเสธไม่รับคนไข้เข้ารับรักษาเพราะเตียงไม่มีเหลือ?

และทำไมเราต้องมานั่งคำถามและวิจารณ์การทำงานที่ไร้ประสิทธิภาพแบบนี้ แทนที่จะวางแผนเตรียมตัวการทำงานเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด

ทุกวันนี้ประชาชนหวาดกลัวและวิตกกังวลอยู่อย่างเดียวคือขอให้ตัวเองและคนในครอบครัวไม่ติดโควิดไปเสียก่อน เพราะรู้ดีว่าถ้าติดเชื้อขึ้นมา อาจจะเข้าไม่ถึงการรักษา แม้จะมีเงิน ก็อาจจะไม่มีเตียง โดยที่ไม่ต้องพูดถึงประชาชนคนธรรมดา ที่หาเช้ากินค่ำ ไม่มีเส้นสาย ไม่ได้มีเงินมากมาย หากพวกเขาติดเชื้อ เขาต้องทำอย่างไรบ้าง ก็ไม่มีใครตอบได้ เพราะทุกช่องทางที่ทำการประชาสัมพันธ์ มันดูดีแค่ในกระดาษ แต่ในทางปฎิบัติจริง มันช่างยากลำบากเหลือเกิน

ใครที่ติดเชื้อโควิดไปแล้วคงจะรู้ดี

และสุดท้าย เราต้องขับเคลื่อนการทำงานด้วยการด่าแบบทุกวันนี้จริงๆหรือ?

ขอผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยออกมาสร้างความเชื่อมั่นอีกที ว่าเราจะรับมือการระบาดอย่างบูรณาการและมีประสิทธิภาพนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


Tags:

About author
เพจด้านการแพทย์ที่มุ่งให้ความรู้และช่วยเหลือผู้ที่ต้องการข้อมูลทางศัลยกรรมตกแต่งที่ถูกต้องตามหลักวิชาการและเชื่อถือได้โดยอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยเฉพาะ ซึ่งมีประสบการณ์การศึกษาต่อและดูแลรักษาคนไข้ทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกามาเกือบยี่สิบปี ปัจจุบันเป็นสมาชิกของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทยและสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ ติดตามอ่านบทความที่ผมเขียนได้ที่ http://drsurawejrama.wordpress.com/ นายแพทย์สุรเวช น้ำหอม ศัลยแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยเฉพาะปัจจุบันเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี รับผิดชอบเกี่ยวกับการเรียนการสอนนักศึกษาแพทย์และฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งรวมถึงการให้บริการรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาความผิดปกติบริเวณใบหน้าและศัลยกรรมตกแต่งทุกชนิดรวมถึงงานวิจัยที่มุ่งพัฒนามาตรฐานการดูแลผู้ป่วยของประเทศไทย จบการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและศึกษาต่อเฉพาะทางด้านศัลยกรรมทั่วไปที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และด้านศัลยกรรมตกแต่งที่โรงพยาบาลรามาธิบดีหลังจากบรรจุเป็นอาจารย์แล้วได้ไปศึกษาต่อด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าที่ Chang Gung Memorial Hospital ประเทศไต้หวัน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการด้านศัลยกรรมตกแต่งที่ใหญ่ที่สุดในเอเซียและเป็นที่หมอเกาหลีมาดูงานการผ่าตัดใบหน้าจำนวนมาก หลังจากศึกษาต่อที่ไต้หวันเป็นเวลาหนึ่งปีก็ได้ศึกษาต่อเพิ่มเติมที่หน่วยศัลยกรรมตกแต่ง University of Washington, Seattle ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยด้านแพทยศาสตร์ระดับ Top10 ของอเมริกาและมีความโดดเด่นด้านการวิจัยซึ่งหลังจากนายแพทย์สุรเวชได้ศึกษาต่อหนึ่งปีก็ได้รับทุน fellowship จาก National Institutes of Health(NIH) ของอเมริกาให้ทำงานด้านการวิจัยด้านสเตมเซลและการรักษาแผลเป็นอีกเป็นเวลาสามปีมีผลงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับโลกและได้รับการชักชวนจาก Professor หลายท่านให้ทำงานต่อที่อเมริกาแต่เนื่องจากความต้องการจะทำงานเพื่อช่วยเหลือคนไทยจึงได้ปฎิเสธข้อเสนอเหล่านั้นไป ปี 2554 นายแพทย์สุรเวชได้เดินทางกลับมาทำงานที่โรงพยาบาลรามาธิบดีและได้พัฒนาโครงการวิจัยเกี่ยวสเตมเซลจากไขมันการวิจัยเพื่อป้องกันแผลเบาหวานและการให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับศัลยกรรมตกแต่งผ่านสื่อของRama Channel, หนังสือพิมพ์เดลินิวส์, มติชน, นิตยสาร Cosmetics, นิตยสาร Allure, นิตยสารHug(7-11) นอกจากนั้นยังรักษาผู้ป่วยทุกระดับชั้นเช่นลุงกุ๋ยผู้ป่วยที่มีใบหน้าพิการไม่สามารถหลับตาและทานอาหารได้ให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติและเป็นได้ให้สัมภาษณ์ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้และเรื่องเด่นเย็นนี้ทางไทยทีวีสีช่อง3 ปัจจุบันนี้นายแพทย์สุรเวชให้บริการตรวจคนไข้ที่โรงพยาบาลรามาธิบดีเป็นหลักและมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการให้บริการในโรงพยาบาลของรัฐให้เป็นที่พึ่งพาแก่ประชาชนทุกคนอย่างดีที่สุดโดยเสียค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุดและต้องการที่จะให้ประชาชนและผู้ป่วยได้รับความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับศัลยกรรมตกแต่งเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจก่อนเข้ารับการรักษาโดยไม่ถูกบิดเบือนจากการโฆษณาและการตลาด ติดตามและพูดคุยกับนายแพทย์สุรเวชได้ที่ Website : http://drsurawejrama.wordpress.com/ Email : [email protected] FB page : https://www.facebook.com/drsurawejrama
Page for everyone who want straight talk about Cosmetic Surgery: A Guide for making informed decision and avoid useless treatments by Dr Surawej Numhom
View all posts